เสริมคางทั้งทีจะใช้ฟิลเลอร์ หรือซิลิโคน ?
คำถามสุดฮิตที่ inbox ถามกันมามากคือ “อยากเสริมคาง แต่ฉีดไขมันตัวเองได้มั้ย? หลายๆ คนคิดว่าไขมันตัวเองปลอดภัยที่สุดใช่มั้ยหละ? แน่นอนว่าไขมันตัวเองปลอดภัยอยู่แล้วจ้า แต่ทำไมแอดมินถึงชอบแนะนำให้เสริมด้วยซิลิโคนหละ วันนี้มาหาคำตอบกันนะคะ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไร?
ให้พูดกันง่ายๆ ฟิลเลอร์ (Filler) ก็คือสารเติมเต็มที่เอาไว้ฉีดเติมเต็มให้กับร่องรอยลึกๆ เช่น หน้าผาก ร่องน้ำหมาก เป็นต้น ซึ่งจำแนกได้อีก 2 ประเภทคือ
1.ฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกหลักทางการแพทย์เช่น ซิลิโคนเหลว น้ำมันมะกอก ทำแล้วอาจไม่ปลอดภัย เกิดการผิดรูป และเกิดการอักเสบได้
2.ฟิลเลอร์ที่ถูกหลักการแพทย์ ได้แก่ คอลลาเจน ไขมันตัวเอง และ HA (Hyaluronic Acid) เป็นต้น
ในเมื่อไขมันตัวเองปลอดภัย ทำไมไม่แนะนำให้ฉีด? ที่ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันตัวเองในการเสริมคางเหตุผลหลักๆ คือ
1.คนเอเชียนั้นมีไขมันน้อย เมื่อจะฉีดไขมันทำให้ต้องใช้ปริมาณไขมันที่ค่อนข้างเยอะ แล้วจะไปดูดไขมันจากไหน (จริงมั้ย?) ก็เลยเป็นข้อจำกัดอันดับแรกที่ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันไงหละคะ
2.เพราะฟิลเลอร์มีโอกาสไหลได้! หลายๆ คนคงจะเคยเห็นข่าวว่าหน้าไหล รูปหน้าผิดรูปใช่มั้ย? นั่นหละคือผลของฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์คือของเหลว เมื่อนานวันมันก็สลายตัว และไหลได้ ทำให้เป็นทรงได้ค่อนข้างยาก ถ้าแก้ไขภายหลังก็จะลำบาก เพราะฟิลเลอร์ซึมไปกับผิดหนังนั่นเองค่ะ
แล้วซิลิโคนปลอดภัยยังไง ทำไมถึงแนะนำให้เสริมด้วยซิลิโคน?
เพราะว่าซิลิโคนเป็นของแข็ง (แต่อ่อนนุ่ม) ทำเป็นรูปทรงได้ง่าย อยู่ได้ถาวร และถ้าเกิดเราไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งการซิลิโคนที่คางมี 3 แบบ คือ
1.เสริมซิลิโคนลงข้างล่าง วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางสั้น การวัดต้องได้สัดส่วนจากหน้าผาก-จมูก-คาง ทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องได้สัดส่วนเท่ากัน เฉพาะนั้นสำหรับคนที่คางสั้นเราก็เสริมคางออกมาด้านล่าง
2.เสริมซิลิโคนออกมาด้านหน้า วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางหลบ คือเวลามองด้านข้างคางจะหลบไปด้านหลัง ก็จะเสริมออกมาด้านหน้า
3.เสริมซิลิโคนออกมาตรงกลางระหว่างบนและล่าง วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางสั้น และหลบ วิธีนี้ต้องเสริมออกมาตรงกลาง สำหรับคนที่เป็นเยอะๆ อาจจะต้องตัดกระดูก-เลื่อนกระดูกกราม และการเลื่อนกระดูกต้องทำร่วมกับการจัดฟันด้วยบางคนเลื่อนออกมาเยอะเลยก็เลื่อนกระดูกกลับเข้าไป
จะเห็นว่าการเสริมคางมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คนไข้ควรเข้ามาพบคุณหมอ เพื่อให้ได้รับการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด บางครั้งการดูแค่รูปถ่ายก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ สำคัญที่สุด!!! ตามหลักการแพทย์จึงแนะนำให้เสริมคางด้วยซิลิโคนแท่งจะปลอดภัยมากกว่านั่นเองค่ะ
มาชมคลิปการเสริมคางด้วยซิลิโคนกับคุณหมอกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูล: นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.บางมด
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : http://www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
คำถามสุดฮิตที่ inbox ถามกันมามากคือ “อยากเสริมคาง แต่ฉีดไขมันตัวเองได้มั้ย? หลายๆ คนคิดว่าไขมันตัวเองปลอดภัยที่สุดใช่มั้ยหละ? แน่นอนว่าไขมันตัวเองปลอดภัยอยู่แล้วจ้า แต่ทำไมแอดมินถึงชอบแนะนำให้เสริมด้วยซิลิโคนหละ วันนี้มาหาคำตอบกันนะคะ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไร?
ให้พูดกันง่ายๆ ฟิลเลอร์ (Filler) ก็คือสารเติมเต็มที่เอาไว้ฉีดเติมเต็มให้กับร่องรอยลึกๆ เช่น หน้าผาก ร่องน้ำหมาก เป็นต้น ซึ่งจำแนกได้อีก 2 ประเภทคือ
1.ฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกหลักทางการแพทย์เช่น ซิลิโคนเหลว น้ำมันมะกอก ทำแล้วอาจไม่ปลอดภัย เกิดการผิดรูป และเกิดการอักเสบได้
2.ฟิลเลอร์ที่ถูกหลักการแพทย์ ได้แก่ คอลลาเจน ไขมันตัวเอง และ HA (Hyaluronic Acid) เป็นต้น
ในเมื่อไขมันตัวเองปลอดภัย ทำไมไม่แนะนำให้ฉีด? ที่ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันตัวเองในการเสริมคางเหตุผลหลักๆ คือ
1.คนเอเชียนั้นมีไขมันน้อย เมื่อจะฉีดไขมันทำให้ต้องใช้ปริมาณไขมันที่ค่อนข้างเยอะ แล้วจะไปดูดไขมันจากไหน (จริงมั้ย?) ก็เลยเป็นข้อจำกัดอันดับแรกที่ไม่แนะนำให้ฉีดไขมันไงหละคะ
2.เพราะฟิลเลอร์มีโอกาสไหลได้! หลายๆ คนคงจะเคยเห็นข่าวว่าหน้าไหล รูปหน้าผิดรูปใช่มั้ย? นั่นหละคือผลของฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์คือของเหลว เมื่อนานวันมันก็สลายตัว และไหลได้ ทำให้เป็นทรงได้ค่อนข้างยาก ถ้าแก้ไขภายหลังก็จะลำบาก เพราะฟิลเลอร์ซึมไปกับผิดหนังนั่นเองค่ะ
แล้วซิลิโคนปลอดภัยยังไง ทำไมถึงแนะนำให้เสริมด้วยซิลิโคน?
เพราะว่าซิลิโคนเป็นของแข็ง (แต่อ่อนนุ่ม) ทำเป็นรูปทรงได้ง่าย อยู่ได้ถาวร และถ้าเกิดเราไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งการซิลิโคนที่คางมี 3 แบบ คือ
1.เสริมซิลิโคนลงข้างล่าง วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางสั้น การวัดต้องได้สัดส่วนจากหน้าผาก-จมูก-คาง ทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องได้สัดส่วนเท่ากัน เฉพาะนั้นสำหรับคนที่คางสั้นเราก็เสริมคางออกมาด้านล่าง
2.เสริมซิลิโคนออกมาด้านหน้า วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางหลบ คือเวลามองด้านข้างคางจะหลบไปด้านหลัง ก็จะเสริมออกมาด้านหน้า
3.เสริมซิลิโคนออกมาตรงกลางระหว่างบนและล่าง วิธีเหมาะสำหรับคนที่คางสั้น และหลบ วิธีนี้ต้องเสริมออกมาตรงกลาง สำหรับคนที่เป็นเยอะๆ อาจจะต้องตัดกระดูก-เลื่อนกระดูกกราม และการเลื่อนกระดูกต้องทำร่วมกับการจัดฟันด้วยบางคนเลื่อนออกมาเยอะเลยก็เลื่อนกระดูกกลับเข้าไป
จะเห็นว่าการเสริมคางมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คนไข้ควรเข้ามาพบคุณหมอ เพื่อให้ได้รับการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด บางครั้งการดูแค่รูปถ่ายก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ สำคัญที่สุด!!! ตามหลักการแพทย์จึงแนะนำให้เสริมคางด้วยซิลิโคนแท่งจะปลอดภัยมากกว่านั่นเองค่ะ
มาชมคลิปการเสริมคางด้วยซิลิโคนกับคุณหมอกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูล: นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.บางมด
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : http://www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
